นักบอลเยาวชนน่านเอฟซี กระทืบวัยรุ่น 7 รุม 1 สลบข้ามวัน

นักบอลเยาวชนน่านเอฟซี กระทืบวัยรุ่น 7 รุม 1 สลบข้ามวัน

นักบอลเยาวชนน่านเอฟซี ก่อเหตุรุมกระทืบวัยรุ่น 7 รุม 1 ทำเอาเหยื่อกรามหัก แขนหัก สลบข้ามวัน แม่ลั่นไม่แฟร์ เตรียมสู้คดีถึงที่สุด ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 ม.ค. เกิดเหตุวัยรุ่นถูกกระทืบบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน พีที แยกสายสวรรค์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย โดยกู้ชีพกู้ภัยเร่งนำส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลน่าน สอบสวนทราบว่า เกิดจากความไม่พอใจกันในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง

ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นเป็นนักฟุตบอลเยาวชนทีมน่านเอฟซี 

ประมาณ 10 คน และหนึ่งในนั้นมีเพื่อนของผู้บาดเจ็บที่เรียนด้วยกันมา 3 คน ได้ไปดื่มกันที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในเขต สภ.เมืองน่าน หลังฝึกซ้อมฟุตบอลเสร็จ โดยผู้บาดเจ็บวัย 17 ปี ได้ไปดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อน 5-6 คน

ระหว่าง ดื่มกินกันอยู่ ผู้บาดเจ็บได้เดินไปขอชนแก้วกับหญิงสาวที่มาด้วยกับกลุ่มนักฟุตบอล ทำให้กลุ่มนักฟุตบอลไม่พอใจ จนผู้บาดเจ็บได้เดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ในร้าน และกลุ่มนักฟุตบอลได้เข้ามาหาเรื่อง แต่กลุ่มเพื่อน ๆที่มาด้วยกัน ได้ห้ามไว้ พร้อมทั้งแยกย้ายกัน

จากนั้น ได้มีการส่งข้อความท้าทาย พร้อมนัดมาเคลียร์กัน โดยจะชกต่อยกันตัวต่อตัว ครั้งแรกนัดกันที่บริเวณหน้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังใกล้แห่งหนึ่งในต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน แต่ผู้บาดเจ็บไม่ไปเนื่องจากไกล จึงเปลี่ยนไปนัดกันที่ปั๊มน้ำมันพีที ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บก็ได้เดินทางไปเพราะนึกว่าจะเป็นการนัดเคลียร์แบตัวต่อตัว ผลปรากฎเจอกลุ่มนักฟุตบอลน่านเอฟซี 7 คน มารุมทำร้ายร่างกาย จนบาดเจ็บสาหัส และสลบคาที่เกิดเหตุ

ล่าสุดแม่ผู้ได้รับบาดเจ็บได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ระหว่างกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้าน ทางโรงพยาบาลน่านได้โทรมาบอกว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แขนหัก ฟันหักและโยกล้มไปทั้งปาก กรามหัก และนอนสลบอยู่ 1 วันเต็ม โดยยืนยันว่า ไม่ยอมความ ไม่เจรจา และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงอยากให้กรณีของลูกชายเป็นอุทาหรณ์

ซึ่งลูกผู้ชายทะเลาะกันต่อยกันตัวต่อตัวแม่จะไม่ติดใจ แต่การรุมกระทืบกันมันไม่แฟร์ ทั้งที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นนักกีฬาฟุตบอลสโมสรน่านเอฟซี ถือว่าเป็นตัวแทนของ จ.น่าน ลูกชายตนโดนรุมจนล้มสลบไป ยังพากันรุมกระทืบซ้ำแบบนี้ ไม่มีน้ำใจนักกีฬา

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า ปัจจุบันทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว จากนี้รอให้ผู้บาดเจ็บรักษาตัวจนสามารถให้การได้ โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย รวมทั้งจะตรวจสอบไปยังร้านอาหารกึ่งผับ ต้นเหตุวิวาท ว่าเหตุใดปล่อยให้เด็กและเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าใช้บริการได้

ตะวัน-แบม ยังน่าห่วง ยืนกรานไม่รับการรักษา ขอจิบน้ำเท่านั้น

เผยอาการล่าสุด ตะวัน แบม เหนื่อย แสบ ปวดท้อง หายใจถี่ ค่าน้ำตาลต่ำ แต่ยันเสียงแข็งยังสู้ต่อ ไม่รับการรักษาขอแค่จิบน้ำพอ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผย คำชี้แจงกรณี ตะวัน ทานตะวัน และ แบม อรวรรณ สองเยาวนชนที่ออกมาเรียกร้องทางการเมืองด้วยการอดอาหารประท้วง ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566” โดยระบุเนื้อหา ดังนี้

ในวันนี้ทนายความได้เข้าเยี่ยมตะวันและแบม ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในช่วงบ่ายของวัน จากการพูดคุยทนายความได้ทราบว่า ตะวันมีอาการจุกอกเนื่องจากแสบท้องและมีอาการปวดท้องหนักกว่าวันที่ผ่านๆ มา หายใจถี่ขึ้น ไม่ทั่วท้อง และมีเลือดกำเดาออกมาเมื่อคืน

โดยตะวันได้เล่าว่า รู้สึกเหนื่อยมากๆ แบบอธิบายไม่ได้ และตอนที่มีคนมาเยี่ยมก็ลุกไม่ไหวแล้ว จึงลุกนั่งขึ้นมาคุยไม่ได้ ซึ่งค่าน้ำตาลของตะวันขณะนี้คือ 63 ตอนนี้ค่าน้ำตาลที่วัดได้จะขึ้นไม่ถึง 70 เลย หมอได้ขอให้พยาบาลมาตรวจบ่อยๆ พร้อมกับคอยมอนิเตอร์ตลอดเวลา เพราะถ้าค่าน้ำตาลต่ำลงไปกว่านี้ อาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นหมดสติได้

นอกจากนี้มีพี่พยาบาลเอาลูกอมมาให้ ตะวันเล่าว่า ได้รับมาเพื่อให้หมอสบายใจ แต่ตะวันจะไม่กิน เธอยังเล่าต่อไปอีกว่า คุณหมอบอกว่า ถ้าหมดสติไป หากฟื้นขึ้นมาสมองอาจจะทำงานได้ไม่เท่าเดิม เพราะสมองเอาน้ำตาลไปเป็นอาหาร ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตะวันรู้สึกเครียดมากๆ เพราะตะวันเป็นคนคิดเลขเร็ว

ส่วนแบมได้แจ้งว่า ตอนนี้จะนอนหลับยากมากๆ และเมื่อนอนหลับไปแล้วก็จะตื่นเป็นระยะๆ อยู่ตลอด เพราะไม่สบายตัวเลย โดยทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาแบมจะพยายามบอกตัวเองให้ตั้งสติก่อน และทุกการเคลื่อนไหวตอนนี้ทำให้แบมมีอาการวิงเวียนตลอดเวลา รู้สึกเวียนหัวและตัวโคลงเคลง นอกจากนี้แล้วตอนยืนแปรงฟันก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อของตัวเองเกร็งมากเหมือนเป็นตะคริว โดยในวันนี้ค่าโพแทสเซียมของแบมอยู่ในเกณฑ์ปกติค่อนไปทางต่ำ และพรุ่งนี้หมอจะมาทำการตรวจอีกครั้ง

แบม เล่าว่า เวลามีคนมาเยี่ยมจะรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่ก็พยายามที่จะทำตัวแอ็กทีฟและชวนพวกเขาคุย

แบม ยังพูดถึงกรณีที่พิ้งกี้ได้ถอดกำไล EM ว่า “หนูรู้สึกแย่มาก ทำไมพิ้งกี้ได้ถอดกำไล EM หนูเคยไปขอถอดกำไล EM เพราะทำงานไม่ได้ แล้วหนูไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเข้าทำงาน แล้วทำไมพิ้งกี้ศาลอนุญาตให้ถอดได้ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องงานเหมือนกัน

ทั้งคู่เล่าว่า เมื่อวานมีรัฐมนตรีมาหาและบอกว่า “จะเอาข้อเรียกร้องไปใส่ในยุทธศาสตร์ที่นายกฯ เป็นประธาน ตราบใดที่ผมยังดำรงตำแหน่งอยู่ ผมจะทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น อยากให้รับการรักษาก่อน”

โดยตะวันได้บอกว่า “หนูยังยืนยันเหมือนเดิมว่าจะไม่รับการรักษาและจะจิบแค่น้ำเท่านั้น” และหากรัฐมนตรีจะทำประการใดให้ทำไปได้เลยไม่ต้องสัญญา หลังจากนั้นทั้งคู่จะพิจารณาต่อไป

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า